- 12 พ.ค. 2568
ดราม่าถล่ม นักแสดงสาว "ลิลลี่ ภัณฑิลา" อัดคลิปร้องไห้ขาดสติ แพนิคหลังเครื่องบินตกหลุมอากาศ ล่าสุดร่ายยาวชี้แจงแล้ว
จากกรณีที่นักแสดงสาว ลิลลี่ ภัณฑิลา โพสต์คลิปเหตุกาณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศรุนแรง ทำให้เจ้าตัวมีอาการแพนิค ถึงร้องไห้ขาดสติบนเครื่องบิน จนผู้ช่วยทั้ง 2 คนต้องช่วยกันปลอบอยู่พักใหญ่ ถึงขึ้นต้องถอดสร้อยพระมาคล้องให้ ท่ามกลางชาวเน็ตหลายคนที่ส่งกำลังใจให้ แต่ก็มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยมองว่าเป็นการตั้งใจทำคอนเทนต์หรือไม่ ถ้ากลัวจริงๆถึงขั้นขาดสติ แต่ทำไมมีเวลาถ่ายคลิป บางส่วนก็มองว่าเป็นการแสดงอารมณ์ที่เกิดกว่าเหตุ สร้างความตื่นตะหนกให้ผู้โดยสารคนอื่นด้วย
ล่าสุด ลิลลี่ ภัณฑิลา ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงร่ายยาวหลังเกิดดราม่า โดยระบุว่า "ลี่ขอบคุณทุกคนมากนะคะ สำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งเข้ามา ลี่ได้อ่านทุกข้อความ รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ ค่ะ"
"และลี่ขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงสำหรับบางความคิดเห็นที่มองว่าเป็นการทำคอนเทนต์รึเปล่า ถ่ายคลิปทำไม ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนั้น กลัวมากเกินไปไหม"
"ลี่อยากชี้แจงว่า ลี่อยู่ในสภาวะที่กลัวมาก และไม่รู้เลยว่าผู้ช่วยได้บันทึกคลิปไว้ จนกระทั่งออกจากเครื่องแล้ว ถึงได้เห็น ลี่อยากพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ภาวะแพนิคเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ มันไม่ใช่ความกลัวธรรมดา แต่เป็นอาการทางจิตใจที่ร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรงต่อสถานการณ์ที่รู้สึกว่า "ไม่ปลอดภัย" ซึ่งคนที่ไม่เคยเผชิญด้วยตัวเอง อาจจะไม่สามารถเข้าใจได้ ยิ่งคนที่เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน มันผวามากค่ะ"
"ปกติลี่เป็นคนมีสติและควบคุมตัวเองได้ดี แต่ลี่ไม่เคยมีประสบการณ์บนเครื่องบินที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ปกติลี่เดินทางบ่อย และค่อนข้างสบายใจกับการขึ้นเครื่องบิน ไม่เคยมีปัญหากับการเดินทางทางอากาศเลย แต่ครั้งนี้มันรุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่ลี่เคยเจอมา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลี่รู้สึกเหมือน 'ไม่รู้จะทำยังไง' กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเข้ามาในหัวเยอะมาก"
"ลี่เข้าใจนะคะว่าทุกคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน และความกลัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ลี่ไม่เคยมีปัญหากับการแสดงความคิดเห็น และไม่เคยตอบโต้ใดๆ แต่ครั้งนี้บางคอมเมนต์มันแรงเกินไปจริงๆ ค่ะ"
"ลี่อยากให้ทุกคนช่วยใช้ความเข้าใจและพิจารณให้รอบด้านก่อนพิมพ์ บางคำพูดอาจส่งผลมากกว่าที่คิด เพราะในโลกความเป็นจริง เราไม่มีทางรู้เลยค่ะว่าคนคนนั้นต้องเผชิญกับอะไรอยู่บ้างในขณะนั้น"
"ลี่แค่อยากแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อเตือนใจหรือเป็นอุทาหรณ์กับใครก็ตามที่อาจเจอสถานการณ์คล้ายกัน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจนะคะ"